พิมรี่พาย ออกโรงขอโทษชาวเน็ต หลังเล่นมุก เมียปูติน กลางไลฟ์ขายของ ยอมรับรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ความสูญเสีย ไม่ได้มีเจตนานำความตายมาล้อเล่น จากกรณีที่ พิมรี่พาย แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังได้พูดกลางไลฟ์ขายของว่า “ดิฉัน เมียวลาดีมีร์ ปูติน ดิฉันเนี่ยจะบอกให้นะ กองทัพเราเนี่ย กำลังจะบุกยูเครนนะ บอกเลยนะว่าต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ให้คุณเนี่ยซีเอฟเจเมลล่า ซะดี ๆ ทั้ง 3 กลิ่น จะเอากลิ่นไหนก็ได้ สักกลิ่นหนึ่งนะคะ เมื่อเรารบชนะแล้ว เราจะรีบส่งของให้ค่ะ”
จนทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในแง่ขอความไม่เหมาะสม
และเป็นการเล่นตลกกับความเป็นความตายของเพื่อนมนุษย์ รวมถึงนาย ปวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ที่ซัดว่า แม่ค้าออนไลน์คนนี้มีแต่ ความเขลา และความถ่อยเท่านั้น
ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กขอโทษ โดยระบุว่า “พิมขออนุญาตอธิบายเหตุการณ์ดราม่าที่เกิดขึ้นตอนนี้นะคะ เรื่องราวตามเนื้อข่าวมีดังนี้ค่ะ
เมื่อคืนวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา นับรวมแล้วจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ 10 วันพอดี วันนั้นพิมได้ทำการ live ขายของตามปกติ ในระหว่าง live บางช่วงบางตอน พิมได้นำเรื่องราวปัญหาระหว่างรัสเซียกับยูเครนมาพูดถึง ซึ่งเหตุการณ์วันนั้นทั้งสองฝ่ายกำลังจะมีการเจรจากัน พิมก็คิดว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
มาถึงวันนี้ผ่านมา 10 วัน ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ของทั้งสองประเทศไปไกลและรุนแรงขึ้นอย่างมาก เเน่นอนว่าตัวพิมเองไม่ได้มีเจตนานำเอาความตายของเพื่อนมนุษย์มาล้อเล่น แต่เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อมีคนแคปเอา live เมื่อ 10 วันที่แล้วมาโพสต์ ทำให้หลายๆคนเมื่ออ่านแล้วเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งก็ต้องยอมรับจริงๆว่ามันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ปัจจุบันยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวพิมเองก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นเช่นกัน พิมต้องขออภัยอย่างยิ่งที่คำพูดของพิมทำให้กระทบกระเทือนจิตใจของทุกคนค่ะ”
กรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรประเภท (2) เฉพาะที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ที่ได้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2564 เป็นต้นไป และได้รับอนุมัติ ต้องมีหลักฐานหรือเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้าราชอาณาจักร และให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไข ดังนี้
เบื้องหลัง ละครบ่วงใบบุญ ช่อง8 จอย ผวาหนักโดน โอ ซัดน่วมในวันแต่งงาน !!
ออกอากาศไปเพียงไม่กี่ตอน แฟนละครสายดราม่า ต่างก็เทใจสมกับการรอคอย การแสดงของ สาว “จอย ศิริลักษณ์” ในละคร “บ่วงใบบุญ” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง8 ล่าสุดมาถึงฉากสำคัญที่หลายคนรอลุ้น อย่างฉากสาวจอย ต้องร่วมเข้าหอลงโรงกับ “โอ อนุชิต”
แถมแค่คืนแรกก็ถูกจัดหนักจัดเต็ม หนำใจ ซะเกือบปางตาย เพราะอาการจิตเภทของหนุ่มโอกำเริบ งานนี้เบื้องหน้าว่าโหด แต่เบื้องหลังบอกเลยว่าโหดกว่า เพราะหนุ่มโอตีบทแตกจนสาวจอยเกิดกลัวหนุ่มโอขึ้นมาซะจริงๆ เบื้องหลังอินเนอร์จะสุดแค่ไหน เรามีภาพมาฝากกัน
ขอบอกเลยว่าแฟนละคร เตรียมสงสารแบบจับใจ ซีนนี้เป็นเรื่องราวของ ใบศรี(จอย ศิริลักษณ์)ที่ต้องเข้าหอกับระดม(โอ อนุชิต) แต่การแต่งงานของทั้งคู่ เหมือนจะผ่านไปด้วยดี ถ้าโรคจิตเภทของระดมไม่กำเริบ จนควบคุมสติไม่ได้ ทั้งจิก ทั้งตบ ทำร้ายเมียสุดที่รักของตัวเอง แบบไร้ความปราณี
ด้านนใบศรีก็ตกใจ ตั้งสติไม่ทัน พยายามหนีสุดชีวิต ร้องเรียกใครก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะตัวเองไม่มีเสียง พูดไม่ได้ นับว่าฉากนี้เป็นฉากที่แฟนๆละครจะได้ดูความน่าสงสารที่จะดึงดูดหัวใจ แถมเป็นซีนที่ยากที่สุดของจอย โอขั้นสุด
เพราะเป็นการเจอตัวกันครั้งแรกในการถ่ายทำ ถ้าหากพูดถึงฉากเรียกน้ำตา ดราม่าหนัก จอย โอ ทำได้แบบไม่ต้องห่วง แถมโอต้องแสดงอาการจิตเภทกำเริบ พูดจาไม่รู้เรื่อง คลั่ง จนตัวเองไร้สติ ส่งพลังอินเนอร์ความน่ากลัว แบบที่จอยเห็นแล้วยังต้องร้องเสียงหลงของจริง
เบื้องหลังซีนนี้ จอยยอมลงทุนคลาน ร้องไห้ แบบไร้เสียง ถูกฉีกเสื้อผ้า จนยับเยิน มิหนำซ้ำ ยอมแต่งเอฟเฟคเลือดกลบปาก ทำเอาทีมงาน และผู้กำกับปรบมือให้ผ่านฉลุย ก่อนจบจอยถึงขั้นเอ่ยปากกลัวโอจริง โอก็พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณจอย ที่รับแอคอารมณ์ของตัวเองจนไม่เทค แถมเล่นน่าสงสารจนโอเกือบหลุดจากคาแรคเตอร์ของตัวเอง ร้องไห้ตามกันเลยทีเดียว
เบื้องหลังว่าสุดแล้ว เบื้องหน้าขอบอกว่าสุดยิ่งกว่า งานนี้แฟน ๆ ต้องหันมาสงสาร ใบศรี จับใจ แต่อย่าลืมว่าระดมทำไปโดยไร้สติ ก็ต้องเอาใจช่วยพวกเขากันว่ารักระทมทุกข์ของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามฉากนี้ได้ในละคร “บ่วงใบบุญ” วันพุธที่ 9 มีนาคม นี้ เวลา 20.30 น. ทางช่อง8 กดเลข27 ห้ามพลาด
(1) ให้มีหลักฐานการชำระค่าที่พัก หรือสถานที่กักกันที่ทางราชการกำหนดเมื่อผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรอย่างน้อย 7 วัน และค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง
(2) ให้มีการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ครั้งที่ 2 ให้แก่ผู้เดินทาง ระหว่างวันที่ 5-6 ของระยะเวลาที่พำนักอยู่ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว หรือเมื่อมีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ