บก.ปคม. เปิดปฏิบัติการ ‘คอสเพลย์อวตาร’ ลวงเยาวชนถ่ายภาพโป๊

บก.ปคม. เปิดปฏิบัติการ ‘คอสเพลย์อวตาร’ ลวงเยาวชนถ่ายภาพโป๊

ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เปิดปฏิบัติการ คอสเพลย์อวตาร รวบหนุ่ม ลวงเยาวชนถ่ายภาพโป๊ จนฆ่าตัวตาย ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เปิดปฏิบัติการ ‘คอสเพลย์อวตาร’ หลังจากที่มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์คนหนึ่ง ล่อลวงให้เยาวชนหญิงส่งภาพแต่งชุดคอสเพลย์ ในลักษณะโป๊เปลือย และนำไปแบล็กเมล์ จนทำให้เด็กหญิงวัย 14 ฆ่าตัวตายดังที่รายงานไปก่อนหน้านี้

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยัง บ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 

ซึ่งเป็นบ้านของ นายปิยบุตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุเด็กหญิงวัย 14 ปี ฆ่าตัวตาย และทางพ่อแม่ได้นำเรื่องนี้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ พบว่า มีหลักฐาน การพูดคุยที่ผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นคนใช้บัญชีโซเชียลที่ตรงกับบัญชีในการก่อเหตุจริง รวมถึงภาพของผู้เสียชีวิต และภาพลามกอนาจารของหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี อีกหลายภาพ

พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. เปิดเผยว่า ผลการสอบสวนนายปิยบุตร ว่า ช่วงแรกให้การภาคเสธ รับเพียงว่าเก็บคลิปภาพเด็กสาวในโทรศัพท์จริง แต่เป็นเด็กสาวที่เคยพูดคุยกัน หรือแฟนสาว รวมไปถึงภาพที่บันทึกมาจากทวิตเตอร์ต่างๆ เพราะเป็นคนชอบสะสมภาพสาวแต่งคอสเพลย์ ไม่ได้มีการข่มขู่หญิงสาวเหล่านั้นแต่อย่างใด ก่อนที่สุดท้ายจะยอมรับว่า เคยมีการข่มขู่เหยื่อว่า จะเอาภาพไปปล่อยตามสื่อสังคมออนไลน์จริง ซึ่งจากหลักฐานยังพบว่า มีความเชื่อมโยงกับผู้เสียหายอย่างน้อย 2 คน ค่อนข้างชัดเจน และหนึ่งในนั้นก็เป็นผู้ที่ทนแรงกดดันไม่ไหวจนต้องจบชีวิตตัวเอง

สำหรับพฤติการณ์ในการก่อเหตุ ผู้ต้องหาจะทักไปพูดคุยและตีสนิทกับกลุ่มเด็กหรือเยาวชน ที่มีความรักชอบในการแต่งชุดคอสเพลย์ ผ่านแอพลิเคชันทวิตเตอร์ หรืออินสตาแกรม จากนั้นจะชวนคุยเชิงหว่านล้อม และเสนอผลประโยชน์ให้ถ่ายภาพโป๊เปลือยของตัวเองมาให้ เพื่อแลกกับเงิน 3,000-6,000 บาท เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ ผู้ต้องก็จะแอบบันทึกภาพดังกล่าวไว้ใช้ข่มขู่ให้ผู้เสียหายยอมทำตาม ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผู้เสียหายหลายคนนำเรื่องที่ถูกข่มขู่ไปโพสต์ และแชร์เตือนภัยให้ระวัง

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหานาย ปิยบุตร “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น” ก่อนพาตัวไปสอบสวนปากคำ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานพบคนร้าย ฆ่าคนไทย4ศพที่ไต้หวัน ที่เชียงใหม่ ตร.ลงพื้นที่ล่าตัวคนร้าย

เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่หลังได้รับรายงานว่าพบคนร้าย ฆ่าคนไทย4ศพที่ไต้หวัน ที่เชียงใหม่ ด้านพี่ชายเล่าผู้ก่อเหตุสนิทกับผู้ตาย จากกรณีชายไทยฆ่าสองสามีภรรยาท้องลูกแฝดที่ไต้หวัน ก่อนนำศพหมกท้ายรถหรูที่ไต้หวัน และมีข่าวว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีมายังประเทศไทยนั้น

ล่าสุดนายยิ่งยศ ชายวัย 38 พี่ชายของ น.ส.พจนีย์ ผู้ตาย ได้เดินทางเข้าพบตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมระบุว่ามีผู้พบเห็น นาย สันติ ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ที่บ้านใหม่หนองบัว ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ แต่ไม่มีใครยืนยัน จึงอยากให้ตำรวจสอบสวนและติดตามตัวคนร้าย

นายยิ่งยศ เปิดเผยว่า น้องสาวและนายสันติสนิทกันมากเพราะโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กในหมู่บ้านเดียวกัน ก่อนที่น้องสาวจะสอบชิงทุนไปเรียนที่ไต้หวันตั้งแต่อายุ 17 ปี จนมีครอบครัวและได้สัญชาติไต้หวัน ส่วนนายสันติเพิ่งจะไปไต้หวันเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา และยังไปกักตัวที่บ้านน้องสาวก่อนได้งานทำ ซึ่งทั้งสองคนสนิทกันมากถึงขั้นรู้รหัสประตูเจ้าบ้าน ยืมสร้อยทองมาใส่ได้และน่าจะทำธุรกิจร่วมกัน

ในวันที่ 8 มิถุนายน ก่อนเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง น้องสาวได้โทรศัพท์มาปรึกษา เล่าว่านายสันติได้มาบอกว่ามีแรงงานไทยที่พาไปทำงานที่ไต้หวันคนหนึ่ง ขโมยเงิน 800,000 บาท และทองคำหนัก 15 บาท ไป หลังจากนั้นน้องสาวก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย เชื่อว่าปมที่นายสันติลงมือฆ่าน้องสาวพร้อมลูกในท้องและสามีมาจากเรื่องนี้

ทุกคนในครอบครัวไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายแรงแบบนี้ขึ้นและคนที่ลงมือฆ่าก็ยังเป็นคนที่สนิทมากและเป็นญาติห่างๆ กันด้วย ซึ่งนายสันติเป็นคนที่พูดเก่งโน้มน้าวคนอื่นเก่ง ไม่คิดว่าจะมีจิตใจที่โหดเหี้ยมแบบนี้ได้ ส่วนศพของน้องคงจะทำพิธีที่ไต้หวันในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ก่อนจะนำกระดูกกลับมาทำบุญที่บ้านตามประเพณี ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.ต.ต.วีระชน บุญทวี รองผบช.ภ.5 ได้ส่งชุดสืบภาค 5 ประสานกับท้องที่ สภ.ไชยปราการ ลงไปที่บ้านของผู้ต้องสงสัยในอ.ไชยปราการ แต่ขณะนี้ยังไม่พบตัวของนายสันติ

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นในย่านจงลี่ของไต้หวัน เปิดเผย ถึงความคืบหน้า เหตุฆาตกรรม สามี-ภรรยาชาวไทย หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่่ผ่านมา (10 มิ.ย.65) เวลา 09.00 น. ทางสถานีตำรวจฯ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านถึงกลิ่นเหม็นเน่า โชยมาจากลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน

เมื่อไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบมีน้ำเหลืองไหล ออกจากท้ายรถสปอร์ตเอสยูวีหรูสีขาว ยี่ห้อ BMW X4 ตรวจสอบภายในท้ายของรถยนต์ก็เจอศพของชายหญิงคู่หนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้ที่สันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป